Dragon Quest 7 Warrior of Eden 3DS
นั้นเดิมเป็นเกมส์ที่ทำลงให้กับเครื่อง PS1 ที่ออกมาในช่วงปี 2000 และเป็นเกมส์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเข้มข้นของเนื้อเรื่อง วึ่งถ้าใครสามารถอ่านเนื้อเรื่องได้เข้าใจแล้วอาจจะน้ำตาซึมได้ แถมยังมีความยาวในการเล่นเกมส์ในระดับตำนานอีกด้วย ซึ่งถ้าแค่จะเล่นให้จบๆไปโดยที่ไม่ได้เก็บรายละเอียดอะไรมากนักเราอาจจะต้องใช้เวลาในการเล่นเกมสืนี้เกมส์เดียวถึง 50 ชั่วโมง แล้วยิ่งถ้าจะเก็บรายละเอียดให้หมดละก็จะต้องเล่นมากกว่า 100 ชั่วโมงกันเลยทีเดียวซึ่งการแปลงร่างลงมาสู่เครื่อง 3DS นี้ไม่ใช่การรีเมคแบบธรรมดาแต่เป็นการยกเคืร่องทำให้ใหม่ทั้งหมดแบบไม่มีอะไรเดิมๆหลงมาให้เห็นเลย ฉากในเกมส์ได้ถูกวาดขึ้นมาใหม่ในแบบโพลิกอน 3D ที่ทำออกมาได้สวยงามกว่าทั้งหมดที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะเคยเล่นมาแล้วแต่เมื่อมาเล่นเกมส์นี้ก็จะรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเล่นเกมส์ใหม่กันเลย เพลงในเกมส์ก็ยังเป็นผลงานเดิมของคุณ Koichi Sukiyama ขาประจำของซีรี่ย์ที่แต่งเพลงให้ทุกภาค และยังมีการจัดทำเพลงใหม่แบบจัดเต็มแบบวงออเคสต้าอีกด้วย
แต่ถึงยังไงก็ยังไม่ทิ้งรูปแบบการเล่นแบบเดิมอยู่นั่นคือยังเป็นแบบเทิร์นเบส RPG แบบผลัดกันตี และตัดเข้าสู่เมนูต่อสู้แบบใส่คำสั่ง มีโลกกว้างๆให้สำรวจ การเดินเรื่องจะเป็นแบบเส้นตรง เน้นการเดินลุยบวกกับปริศนาอีกเล็กน้อย คอเกมส์รุ่นใหม่อาจจะไม่คุ้นเคยกับรูปแบบการเล่นแบบนี้ คัตซีนก็ไม่มีมีเพียงตัวอักษรวิ่งในกรอบ ซึ่งถ้าอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกอาจะมีแอบเซ็งแน่ๆ แต่ถ้ารักที่จะเล่นจริงๆแนะนำให้ไปหาบทสรุปเวอร์ชั่น PS1 มาเล่น เพื่อที่จะได้รู้เรื่องราวของเกมส์นี้มากยิ่งขึ้นแล้วจะอินมากๆ และการที่ตัวเกมส์ใช้การรวมแผ่นศิลามาต่อกันเพื่อย้อนอดีตปลดล็อกทำให้มีเนื้อเรื่องที่หลากหลายอารมณ์มาก
Dragon Quest 7 Warrior of Eden 3DS
อย่างไรก็ตามเกมก็ไม่ได้เดินตามรอยแบบเก่าๆทั้งหมด แต่ยังได้มีการเพิ่มเติมเนื้อหาและส่วนต่างๆภายในเกมส์ให้มีความทันสมัยร่วมยุคมากยิ่งขึ้น เช่น การเห็นศัตรูตัวเป็นๆบนแผนที่ ,ดันเจี้ยนที่เหมือนกับภาค 9, ฉากที่วาดขึ้นมาใหม่, มีตัวละครใหม่ที่มาคอยแนะนำการต่อแผ่นศิลา, การเปลี่ยนชุดตัวละครที่ดูง่ายยิ่งขึ้น, เห็นตัวละครในฉากต่อสู้ ฯลฯนอกจากนี้ตัวเกมส์ยังได้ถูกปรับให้มีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้นในการเล่นเกม ผู้เล่นจะต้องวางแผนที่จะใช้คาถาต่างๆให้ดีในแต่ละสถานการณ์ ส่วนหน้าจอสัมผัสนั้นจะใช้เป็นแต่เพียงเพื่อแสดงเมนูและแผนที่เท่านั้น
และแม้ว่าจะเป็นเปลี่ยนมาเป็นแบบ Full 3D แล้วก็ตาม แต่ก็ทำได้เพียงแค่หมุนซ้ายขวารอบทิศทางเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นมุมอื่นๆได้เลย ทำให้บางครั้งเกิดมุมอับและโดนโจมตีทีเผลอได้ง่ายๆ และด้วยความยาวของมหากาพย์ของซีรี่ย์ Dragon Quest นี้มันก็มีข้อดีตรงที่สำหรับแฟนๆแล้วมันเป็นการเล่นที่นาน แต่เล่นแล้วสนุกไม่เบื่อเลย ถือว่าคุ้มมาก แต่ข้อเสียก็คือ สำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนซีรี่ย์นี้แล้วก็อาจจะเบื่อได้ เพราะเนื้อเรื่องจะดำเนินไปแบบเรียบเนิบๆ ไม่ค่อยหวือหวาเท่าไหร่นัก แต่ยังดีที่เกมส์ได้ใส่ระบบแลกเปลี่ยนศิลากับเพื่อนผ่านระบบไร้สาย Street Pass และยังได้จากการใช้รหัสพิเศษที่รวมทั้งการจับมอนสเตอร์ก็มีมาให้ได้เล่นกันอีกด้วย
สุดท้ายแล้วถึงแม้ใครจะว่ายังไงก็ตามแต่เมื่อได้เล่นเกมส์ Dragon Quest 7 นี้แล้วก็ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนอดีตกลับไปเล่นเกมคลาสสิกในอารมณ์เดิมๆ ที่ทำให้เราเล่นแบบอดหลับอดนอนได้อีกครั้ง แถมยังไม่ดูเชยเพราะภาพลักษณ์ที่ถูกเปลี่ยนใหม่ ทำให้เกมส์มีความสดใหม่ผสมผสานความคลาสสิกในเกมได้อย่างลงตัว พูดได้อย่างเต็มปากเลยว่านี้คือการรีเมคเกมส์ในซีรี่ย์ Dragon Quest ที่ดีที่สุดตลอดกาล ถ้าพลาดไปก็อย่าได้เรียกตัวเองว่าเป็นคอเกม JRPG เลยดีกว่า
ที่มา นิตยสารเกมส์ Play
แสดงความคิดเห็น